บัตรเอทีเอ็ม

ประเภทของบัตรเอทีเอ็ม กับค่าธรรมเนียมรายปี

บัตรเอทีเอ็ม (ATM Card, Key card, Bank card) เป็นบัตรที่หลายๆคนก็คุ้นเคยและรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันบัตรเอทีเอ็มสามารถทำอะไรได้มากมายคล้ายๆ กับเครดิตการ์ดเลย โดยเฉพาะการใช้กดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคาร หรือกรณีที่ต้องการเงินด่วนฉุกเฉินในบัญชี ก็สามารถใช้กดเงินจากตู้ต่างธนาคารก็ได้  ยังสามารถจะใช้โอนเงิน ฝากเงิน หรือชำระบิลต่างๆได้ เช่นบิลค่าน้ำ ค่าไฟ หรือยังสามารถจะใช้เป็นบัตรเดบิตที่ใช้จ่ายแทนเงินสดได้ง่ายๆซึ่งในการทำบัตร ATM ใหม่สามารถจะแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ว่าต้องการบัตรเดบิต โดยจะมีโปรโมชั่นต่างๆเพิ่มขึ้นมา พร้อมกับค่าธรรมเนียมรายปีที่จะต้องจ่ายเพิ่มจากเดิม

การเปิดบัญชีเงินฝากพื้นฐานของแต่ละธนาคาร ส่วนมากจะไม่มีการระบุขั้นต่ำในการใช้เปิดบัญชี ซึ่งตามจริงแล้วในแต่ละธนาคารก็จะมีบัญชีเงินฝากหลายประเภทซึ่งก็จะมีสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันออกไปอีก รวมถึงการทำบัตร ATM ที่ลูกค้าสามารถจะเลือกสมัครได้ตามความต้องการ ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงบัตรที่พ่วงกับบัญชีเงินฝาก ที่ไม่รวมถึงบัตรเครดิตนั่นเอง แต่ถึงแบบนั้นบัตรเอทีเอ็มก็ดีกว่าสินเชื่อนอกระบบมากๆ แต่จะดียังไงนั้นมาดูกันเลย

การเปิดบัญชีพร้อมกับทำบัตร ATM ใหม่จะมีให้เลือก บัตร 2 ประเภท

1. บัตร ATM แบบธรรมดาที่ไม่มีสัญลักษณ์ VISA ซึ่งจะใช้งานได้แค่กดถอนเงินสดหรือเงินก้อนใหญ่จากตู้ ATM 
2. บัตร ATM แบบมีชิปการ์ด หรือเรียกว่าบัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์ VISA ที่สามารถจะใช้งานได้แทนเงินสด ได้ตามห้างหรือร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA ซึ่งปัจจุบันในแต่ละธนาคารการทำ ATM ใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทที่มีสัญลักษณ์ VISA ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกมากขึ้นในการใช้จ่าย โดยไม่ต้องวิ่งหาตู้ ATM เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป แต่ต้องบอกก่อนว่าบัตรนี้จะไม่สามารถกู้เงินด่วนออนไลน์เพื่อกดเงินล่วงหน้าได้เหมือนบัตรกดเงินสดหรือบัตรอื่นๆ 

ประเภทของบัตรเอทีเอ็มของแต่ละธนาคาร

นอกจากจะออกแบบมาให้มีลวดลายสวยงาม ซึ่งจะมีการเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามเทศกาล หรือช่วงเวลาสำคํญๆต่างๆ เพื่อเป็นการชวนเญให้ลูกค้าอยากมีไว้ใช้ หรือเพื่อสะสมไปในตัว อีกทั้งยังมีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบัตร พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ซึ่งคิดว่านั่นอาจจะไม่ใช่ปัญหา ถ้าเทียบกับประโยชน์ต่างๆที่ผู้ถือบัตรนั้นๆจะได้รับ 

1. บัตรเอทีเอ็ม สำหรับนักช้อปปิ้งออนไลน์ จะเน้นการได้ส่วนลดต่างๆ เมื่อช้อปผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆเช่น Shopee, Lazada, Grab, Grab Food หรืออื่นๆอีกมากมายที่ร่วมรายการ โดยส่วนลดที่ได้ตั้งแต่ 5% – 20% ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น ณ ตอนนั้น รวมถึงส่วนลด 50 – 100 บาทตามแต่ละโปรโมชั่นของแต่ละที่ ยังรวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับรถ อะไหล่ และยังหมายถึงบัตรที่รวมไว้ทุกๆไลฟ์สไตล์ของลูกค้า การเที่ยว ใช้ และช้อปปิ้ง ซึ่งแต่ละบัตรก็จะมีลวดลายที่แตกต่างกัน รวมถึงค่าธรรมเนียมรายปีด้วย
2. บัตรเอทีเอ็ม ที่มาพร้อมกับการคุ้มครอง เช่นการคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพียงอย่างเดียว หรือไม่ต้องสำรองจ่ายที่โรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ ในบางบัตรนอกจากการคุ้มครองการเสียชีวิตในที่สาธารณภัยแล้ว ยังมีเงินทดแทนรายได้ในแต่ละวันไม่เกิน 7 วัน โดยค่าธรรมเนียมในแต่ละบัตรก็จะแตกต่างกันไปตามวงเงินคุ้มครองนั่นเอง